ความสำคัญและความมุ่งมั่นขององค์กร

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศถือเป็นหนึ่งในประเด็นเร่งด่วนที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในภาคธุรกิจและภาคการผลิตที่อาจเผชิญกับความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ ความไม่แน่นอนของทรัพยากร และการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายในระดับประเทศและสากล ซึ่งบริษัทตระหนักถึงความสำคัญและนำเป็นประเด็นหลักในการพิจารณากำหนดกลยุทธ์และแนวทางดำเนินงาน เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศดังกล่าวทั้งในมิติของการปรับตัว (Adaptation) และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินงานในระยะยาว

โอกาส และผลกระทบ

บริษัทได้ดำเนินการประเมินความเสี่ยงและโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญประกอบการวางแผนกลยุทธ์และการตัดสินใจทางธุรกิจให้สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ตลอดจนสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในยุคเศรษฐกิจสังคมคาร์บอนต่ำที่กำลังกลายเป็นกระแสหลัก

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

เป้าหมายที่ 7:
สร้างหลักประกันว่าทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่ในราคาที่เข้าถึง เชื่อถือได้ และยั่งยืน
เป้าหมายที่ 13:
ปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและ ผลกระทบที่เกิดขึ้น

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

คู่ค้า
คู่ค้า
ความร่วมมือในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ โซลูชัน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบสนองแนวทางการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก
พนักงาน
พนักงาน
กิจกรรมดำเนินงานที่ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมมาตรการลดก๊าซเรือนกระจก
ผู้ถือหุ้น
ผู้ถือหุ้น
กลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
หน่วยงานกำกับดูแล / หน่วยงานภาครัฐ
หน่วยงานกำกับดูแล / หน่วยงานภาครัฐ
กิจกรรมดำเนินงานที่ตอบสนองนโยบาย มาตรการ และเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ

เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

ตัวชี้วัดและเป้าหมายการดำเนินการด้าน ESG ผลการดำเนินงานปี 2567
เป้าหมายระยะสั้น
การรายงานก๊าซเรือนกระจก ขอบเขตการดำเนินงานที่ 1 2 และ 3 ของ บมจ. ล็อกซเล่ย์ เพื่อจัดทำเป็นข้อมูลปีฐาน

ขอบเขตการดำเนินงานประเภทที่ 1 เท่ากับ

536 tCO2e

ขอบเขตการดำเนินงานประเภทที่ 2 เท่ากับ

1,319 tCO2e

ขอบเขตการดำเนินงานประเภทที่ 3 เท่ากับ

414 tCO2e

ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้จากกิจกรรมต่างๆเท่ากับ 27 tCO2e

68.23 tCO2e

เป้าหมายระยะยาว
ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 20 ในปี 2573 เทียบกับปีฐาน ดำเนินการจัดทำข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปีฐาน ที่ผ่านการทวนสอบแล้วเสร็จ

แนวทางการบริหารจัดการ

กลยุทธ์

1
สร้างการตระหนักรู้
การให้ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างจิตสำนึกและความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา
2
เพิ่มปริมาณการใช้พลังงานหมุนเวียนและแหล่งพลังงานสะอาด
การลดการใช้พลังงานที่มาจากแหล่งเผาไหม้หรือการใช้พลังงานที่ให้มลพิษน้อยลง การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้วยการปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี
3
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร
สนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพในทุกกระบวนการของการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานทรัพยากร
4
ดำเนินกิจกรรมที่สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
5
การพัฒนาสินค้าและบริการ
การนำเสนอโซลูชันและนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งในด้านธุรกิจและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
6
สนับสนุนภาครัฐ ชุมชน
ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การบริหารจัดการ

1
ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • สนับสนุนให้มีการจัดทำรายงานการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกขององค์กร และขอรับการทวนสอบจากหน่วยงานภายนอกเพื่อทราบถึงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกิจกรรมต่างๆ สามารถนำไปสู่การวางแผนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถูกจุด และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้สูงสุด
  • ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อปลูกฝังสร้างจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงานในองค์กร
  • เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนและแหล่งพลังงานสะอาด
  • กำหนดแผนกิจกรรม และเป้าหมายในการลดปริมาณขยะสู่การฝังกลบ
  • สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ เพื่อดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • เชื่อมโยงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเข้ากับกระบวนการทางธุรกิจ และกำหนดเป็นเป้าหมายการปฏิบัติงานของหน่วยธุรกิจและหน่วยงานสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง
2
การปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิอากาศที่ เปลี่ยนแปลง
การปรับขั้นตอนกระบวนการทำงาน และจัดหา อุปกรณ์ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยที่จำเป็นสำหรับพนักงาน
3
การดูดซับก๊าซเรือนกระจก
ศึกษาแนวทางในการดำเนินกิจกรรมเพื่อช่วย ดูดซับก๊าซเรือนกระจก
4
ให้การสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ
ในการควบคุมดำเนินการและฟื้นฟูผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

แผนการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

1
การประเมินและจัดการความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ดำเนินการประเมินความเสี่ยงและประเมินผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อธุรกิจ ความเสี่ยงและโอกาสเกี่ยวข้องที่สำคัญ ทั้งในมิติทางกายภาพและระยะเปลี่ยนผ่าน (Physical Risk และ Transition Risk)
2
การกำหนดกลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์และแนวทางการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ดังนี้
  • การปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • ความร่วมมือและการสื่อสาร
3
การตั้งเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ
บริษัทกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดในการรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นระบบตามหลักเกณฑ์ในการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นอกจากนั้น บริษัทมีเจตนารมณ์ความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวงกว้างเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้ครอบคลุมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท
4
แนวทางการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
บริษัทนำประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาประกอบการพิจารณาในกระบวนการวางแผน การตัดสินใจ และใช้เป็นข้อมูลประกอบการทบทวนเป้าหมาย กลยุทธ์ นโยบายการจัดการความเสี่ยง งบประมาณประจำปี และแผนธุรกิจ ตลอดจนใช้ในการติดตามผลการดำเนินตามกฎหมายและข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอีกด้วย
5
มาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 1
บริษัทเดินหน้าผลักดันนโยบายพิจารณาเปลี่ยนยานพาหนะที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือรถยนต์ไฮบริด การสนับสนุนการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการประชุม สัมมนา เพื่อลดการเดินทางของบริษัท ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงความพยายามในการศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า
6
มาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 2
บริษัทสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อลดปริมาณการใช้พลังงานจากฟอสซิล และรณรงค์การลดใช้พลังงานไฟฟ้าภายในบริษัทผ่านกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้า การกำหนดระยะเวลาการเปิด-ปิดไฟฟ้าระบบปรับอากาศ การใช้นโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่นโดยเปิดโอกาสให้หน่วยงานพิจารณาใช้นโยบาย Work from Home และ Flexi Hour ตามความเหมาะสมเป็นต้น โดยปัจจุบันบริษัทได้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) บนอาคารในบริเวณสำนักงานใหญ่รวม 3 อาคาร มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง (Installed power generation capacity) รวม 240.14 กิโลวัตต์ นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่อาคารอื่นๆ เป็นการเพิ่มเติมในอนาคต
7
มาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 3
บริษัทดำเนินกิจกรรมที่สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 3 ที่สำคัญ คือ
  • การลดปริมาณการใช้น้ำประปาเพื่ออุปโภคบริโภคในสำนักงาน
  • การลดปริมาณขยะสู่การฝังกลบ
  • การคัดแยกขยะเพื่อนำสู่กระบวนการรีไซเคิล
8
การสร้างความตระหนักและมีส่วนร่วม (Engagement & Awareness)
สนับสนุนกำหนดนโยบายส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกคนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ทั้งโดยการจัดการฝึกอบรมสัมมนา การสนับสนุนการเรียนรู้ออนไลน์และส่งพนักงานเข้าอบรมกับสถาบันภายนอก การรณรงค์ผ่านกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อภายในองค์กร เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน
9
การติดตาม ประเมินผล และรายงาน (Monitoring & Reporting)
บริษัทได้มอบหมายให้คณะทำงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และสำนักเลขานุการบริษัท ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อคำนวณปริมาณการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ประเมินประสิทธิภาพของมาตรการ ติดตามความก้าวหน้าของโครงการ และจัดทำรายงานการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกขององค์กร เพื่อรับการทวนสอบจากหน่วยงานอิสระภายนอก รายงานต่อคณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการบริษัท พร้อมทั้งใช้ข้อมูลในการสื่อสารต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
ผลการดำเนินงาน
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1,855 tCO2e
Scope 1:
536
tCO2eq
Scope 2:
1,319
tCO2eq
Scope 3:
414
tCO2eq
Carbon Intensity Scope 1-2:
3.72
tCO2eq ต่อคน
Carbon Intensity Scope 1-3:
4.55
tCO2eq ต่อคน

ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการ

เพิ่มสัดส่วนการใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกรวมคิดเป็น
ร้อยละ
23.81
ของรถยนต์บริษัททั้งหมด
เพิ่มปริมาณการใช้พลังงานหมุนเวียนรวม
221,116.19
กิโลวัตต์-ชั่วโมง
หรือเพิ่มขึ้น 170,940.87 กิโลวัตต์-ชั่วโมง คิดเป็นร้อยละ 340.69
คัดแยกขยะเศษอาหารเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการย่อยสลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ จำนวน
6,810.21
กิโลกรัม
ลดการตัดต้นไม้ด้วยการส่งกระดาษใช้แล้วเข้าสู่ กระบวนการรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ จำนวน
8,362
กิโลกรัม
การจัดสัมมนา “Loxley กับก้าวเพื่อความยั่งยืน” ให้กับกรรมการบริษัท กรรมการบริหาร ตัวแทนของสายธุรกิจ คณะทำงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และผู้เกี่ยวข้อง มีผู้เข้าร่วมสัมมนาจำนวน
69
คน
ร่วมโครงการ ESG DNA ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีผู้บริหารและพนักงานของบมจ.ล็อกซเล่ย์ เข้าร่วมโครงการและผ่านการทดสอบจำนวน
381
คน
เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์บนโรงเรือนเครื่องแปลงขยะเศษอาหารเป็นปุ๋ยของบริษัท ด้วยกำลังการผลิตติดตั้ง
2.9
กิโลวัตต์-ชั่วโมง
เพื่อลดสัดส่วนปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
จัดกิจกรรมรณรงค์ลดการใช้กระดาษ พลาสติก และโฟม ลดการใช้พลังงานจากอุปกรณ์ไฟฟ้า เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ลดขยะอาหาร และคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิล พร้อมนำผลจากการจัดกิจกรรมไปเข้าร่วมโครงการ Care the Bear และ โครงการ Care the Whale ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อสะท้อนปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่สามารถลดได้ โดยมีผลลัพธ์เท่ากับ
12.22
tCO2eq
โครงการ Care the Bear
56.01
tCO2eq
โครงการ Care the Whale
จัดทำรายงานการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกขององค์กรเพื่อกำหนดเป็นข้อมูลปีฐาน และผ่าน การทวนสอบจาก บริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จำกัด หน่วยงานทวนสอบการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ระดับนิติบุคคล ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 และได้ขยายขอบเขตการรายงานไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม อื่น ๆ (Scope 3)
ดำเนินกิจกรรมความร่วมมือกับคู่ค้า พันธมิตรธุรกิจในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ได้แก่ โครงการบริหารจัดการขยะเศษอาหาร