
สิทธิมนุษยชนและชุมชน
ความสำคัญและความมุ่งมั่นขององค์กร
บริษัทตระหนักดีว่าการดำเนินงานขององค์กรย่อมมีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อชุมชนและผู้มีส่วนได้เสียอื่น บริษัทจึงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจย่างมีความรับผิดชอบและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน ควบคู่ไปกับการส่งมอบคุณค่าแก่ชุมชนและผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจ เพื่อเป็นรากฐานของความมั่นคงและความยั่งยืนในระยะยาว
โอกาส และผลกระทบ
บริษัทเคารพและส่งเสริมกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนทั่วทั้งองค์กร เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านทรัพยากรบุคคลอันเป็นปัจจัยพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจ และการส่งมอบสินค้าและบริการคุณภาพสู่มือผู้บริโภค ตลอดจนขยายขอบเขตการดูแลไปยังชุมชนและสังคม เพื่อลดผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นต่อกระบวนการดำเนินงานและภาพลักษณ์ของบริษัท
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
เป้าหมายที่ 3:
เป้าหมายที่ 5:
เป้าหมายที่ 8:
เป้าหมายที่ 10:
ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายและผลการดำเนินงาน
ตัวชี้วัดและเป้าหมายการดำเนินการด้าน ESG | ผลการดำเนินงานปี 2567 |
---|---|
จำนวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นศูนย์ | จำนวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็น |
การตรวจสอบสถานะสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านด้วยตนเองครบทุกมิติ | ดำเนินการตรวจสอบสถานะสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านด้วยตนเอง |
อัตราการตอบกลับจากการประเมินความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน มากกว่าร้อยละ 70 | อัตราการตอบกลับจากการประเมินความผูกพันต่อองค์กร อยู่ที่ |
คะแนนความผูกพันต่อองค์กรมากกว่าระดับ 3 | คะแนนความผูกพันต่อองค์กรเท่ากับ |
แนวทางการบริหารจัดการ
กลยุทธ์
การบริหารจัดการ
กระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน
1. จัดทำและประกาศนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน
เพื่อเป็นข้อผูกพันเชิงนโยบาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชน โดยกำหนดแนวทางปฏิบัติไว้ให้คณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับยึดถือปฏิบัติ
2. ระบุความเสี่ยงและประเด็นสำคัญด้านสิทธิมนุษยชน
โดยระบุขอบเขตประเด็นสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้อง จากการทบทวนปัญหาสิทธิมนุษยชนจากกลุ่มธุรกิจที่ใกล้เคียงกันและจากการวิเคราะห์ของสื่อต่างๆ โดยระบุประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นจริงและมีโอกาสเกิดขึ้นที่ครอบคลุมประเด็นเกี่ยวกับแรงงานบังคับ การค้ามนุษย์ แรงงานเด็ก เสรีภาพในการสมาคม สิทธิในการเจรจาต่อรอง ค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติ และการล่วงละเมิดในทุกรูปแบบ พร้อมทั้งระบุกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ
3. ประเมินระดับความเสี่ยง โอกาสและผลกระทบที่อาจส่งผลต่อสิทธิมนุษยชน
ทำการประเมินความเสี่ยงทางด้านสิทธิมนุษยชนโดยพิจารณาขนาดความรุนแรงของผลกระทบ และโอกาสในการเกิดการละเมิดด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานของบริษัท ประเด็นความเสี่ยงด้านมนุษยชนที่ได้รับการประเมินในระดับที่สูง ถึงสูงมากจะมีการพิจารณาทบทวนแนวทางบริหารจัดการของบริษัทในปัจจุบัน ให้สอดคล้องกับผลการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน
4. กำหนดมาตรการป้องกัน บรรเทาผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้น และกลไกการเยียวยา
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการลดและควบคุมผลกระทบให้อยู่ในระดับต่ำหรืออยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยมีรูปแบบการเยียวยาดังนี้
- การชดเชยในรูปแบบที่เป็นตัวเงิน โดยพิจารณาตามหลักกฎหมาย ระเบียบมาตรการของบริษัท และความเหมาะสม
- การชดเชยในรูปแบบที่มิใช่ตัวเงิน เช่น การขอโทษ การให้ความช่วยเหลือหลังประสบเหตุ
ทั้งนี้ การกำหนดกลไกในการเยียวสำหรับแต่ละเหตุการณ์อาจมีความแตกต่างกันออกไปตามสาเหตุและผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยผ่านการกระบวนการปรึกษาหารือไกล่เกลี่ย ซึ่งบริษัทให้สิทธิ์ผู้ได้รับผลกระทบในการเข้าร่วมเจรจาต่อรองบนพื้นฐานของหลักสิทธิมนุษยชน
5. ติดตามและทบทวนผลการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน
เพื่อปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงาน รายงานต่อผู้บริหาร และเปิดเผยต่อสาธารณะ