ความสำคัญและความมุ่งมั่นขององค์กร

บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่ยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยมีการบริหารจัดการที่ให้ความสำคัญกับการสร้างความสำเร็จของธุรกิจ ควบคู่ไปกับการลดผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับการเสริมสร้างความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกๆ ด้าน

โอกาส และผลกระทบ

การจัดการห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการดำเนินงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไร ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจได้ ก่อให้เกิดปัญหาทั้งในมุมการหยุดชะงักของธุรกิจ การละเมิดกฎหมาย ค่าปรับ ผลกระทบต่อผลประกอบการ และภาพลักษณ์องค์กร ดังนั้น การวางแผนและการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างรอบคอบจึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อความยั่งยืนขององค์กรในระยะยาว

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

SDGs 9
เป้าหมายที่ 9:
สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความทนทาน ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืน และส่งเสริมนวัตกรรม

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ลูกค้า
ลูกค้า
ได้รับสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ตามความต้องการและคุ้มค่า คุณภาพเหมาะสมกับราคา
คู่ค้า
คู่ค้า
ความร่วมมือกับคู่ค้าในการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกันอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ
ผู้ถือหุ้น
ผู้ถือหุ้น
ผลการดำเนินงานเชิงตัวเลขและทิศทางการพัฒนาและเติบโตของธุรกิจ

แนวทางการบริหารจัดการ

1. การประเมินความเสี่ยงจากการดำเนินงานของคู่ค้า

บริษัทบริหารจัดการกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างส่วนกลางและการจัดซื้อจัดจ้างงานโครงการ ด้วยการประเมินคุณภาพและความสามารถของคู่ค้า (Supplier Evaluation) เพื่อให้มั่นใจว่าคู่ค้ามีศักยภาพในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ มีคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ตรงตามข้อกำหนด ตามปริมาณ กำหนดเวลา และขั้นตอนการส่งมอบที่เป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน กฎหมายสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพที่เกี่ยวข้อง

ขั้นตอนแนวทางการคัดเลือกและประเมินคู่ค้า
การคัดกรองตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น
การประเมินความเสี่ยง
การส่งมอบเอกสารประกอบการขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้ารายใหม่
การลงนามในจรรยาบรรณคู่ค้า
การขึ้นทะเบียนผู้ขาย ทะเบียนคู่ค้าในระบบ
การวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญของคู่ค้าที่มีนัยสำคัญทางธุรกิจ
การประเมินผลการดำเนินงานของคู่ค้า
บริษัทวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญของคู่ค้า เป็น 5 กลุ่ม ได้แก่
คู่ค้าทางตรง
(Tier 1 Suppliers)
คู่ค้าที่ดำเนินการจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้กับบริษัท
คู่ค้าทางอ้อม
(Non-Tier 1 Suppliers)
คู่ค้าที่จัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้กับคู่ค้าทางตรงของบริษัทหรือคู่ค้าลำดับถัดไปในห่วงโซ่อุปทาน
คู่ค้าสำคัญทางตรง
(Critical Tier 1)
คู่ค้าที่มีจำนวนการสั่งซื้อสูง มีการสั่งซื้อต่อเนื่อง ตลอดจนสินค้าและบริการดังกล่าวมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท หรือเป็นสินค้าและบริการที่ยากต่อการจัดหาทดแทนจากคู่ค้ารายอื่น
คู่ค้าสำคัญทางอ้อม
(Critical Non-Tier 1)
ผลิตสินค้าหรือให้บริการที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท และยากต่อการหาทดแทนจากผู้ผลิตหรือผู้ให้บริการรายอื่นๆ โดยจำหน่ายให้กับตัวแทนซึ่งเป็นคู่ค้าทางตรงของบริษัท หรือคู่ค้าลำดับถัดไปในห่วงโซ่อุปทาน
คู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูงด้านความยั่งยืน
(Sustainability High-Risk Suppliers)
คู่ค้าที่มีผลประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลอยู่ในระดับ 4 โดยการดำเนินงานของคู่ค้ามีแนวโน้มที่อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อบริษัท

การประเมินผลการดำเนินงานของคู่ค้า

การประเมินผลการดำเนินงานของคู่ค้า
เกณฑ์การคัดเลือกคู่ค้าเพื่อเข้ารับการประเมินความเสี่ยง
1
การประเมินตามคุณสมบัติในการจัดซื้อจัดจ้าง
คู่ค้าที่ต้องเข้ารับการประเมิน: คู่ค้าสำคัญทางตรงที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานหรือส่งมอบงานโครงการต่างๆของบริษัท เช่น ผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์หลักของงานโครงการนั้นๆ ผู้รับเหมา และผู้ให้บริการในรูปแบบต่างๆ
2
การตรวจประเมินด้านความยั่งยืนในสถานที่ปฏิบัติงาน (On-site ESG Audit)
คู่ค้าที่ต้องเข้ารับการประเมิน: คู่ค้าสำคัญทางตรงที่ร่วมลงนามจรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจ หรือเป็นผู้ให้บริการในรูปแบบต่างๆ ภายในพื้นที่ปฏิบัติงานสำคัญของบริษัท เช่น ผู้รับเหมาช่วงสำคัญของโครงการ ผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัยและรักษาความสะอาด ที่มีผลประเมินตามคุณสมบัติในการจัดซื้อจัดจ้างอยู่ในระดับ 3 ขึ้นไป
ประเด็นความเสี่ยงที่พิจารณา (Risk Factor)
ด้านสิ่งแวดล้อม
  • การปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
  • การใช้พลังงาน
  • การจัดการมลพิษ
  • ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิตและบริการ
  • การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ด้านสังคม
  • การปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานและสิทธิมนุษยชน
  • ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
  • การปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเท่าเทียม
  • การใช้แรงงานบังคับ แรงงานเด็ก
  • ค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ของพนักงาน
ด้านเศรษฐกิจและบรรษัทภิบาล
  • การรักษาความลับ
  • สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
  • การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
  • ความขัดแย้งทางผลประโยชน์
  • การแข่งขันอย่างเป็นธรรม
  • คุณภาพและการส่งมอบสินค้าและบริการ
หมายเหตุ: บริษัทอาจพิจารณาในประเด็นความเสี่ยงอื่นๆเพิ่มเติมตามความเหมาะสมกับสถานการณ์และลักษณะการดำเนินงานของคู่ค้า

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ

คู่ค้าธุรกิจลงนามรับทราบจรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจจำนวน

351ราย

ในจำนวนนี้เป็นคู่ค้าของ บมจ. ล็อกซเล่ย์ จำนวน

188
ราย

หรือ คิดเป็นจำนวนคู่ค้าใหม่ที่ลงนามในจรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจ 51%

คู่ค้าที่เข้ารับการติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจจำนวน
8
ราย
คู่ค้าที่ต้องเข้ารับการตรวจประเมินด้านความยั่งยืนในสถานที่ปฏิบัติงาน (On-site ESG Audit) จำนวน
19
ราย
คู่ค้าที่เข้ารับการประเมินความเสี่ยงจากคู่ค้าครอบคลุม ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจและบรรษัทภิบาล (ESG Risk) จำนวน
19
ราย

หรือคิดเป็นร้อยละ 10.11 ของคู่ค้าทั้งหมดใน ปี 2567

คู่ค้าที่เข้ารับการตรวจประเมินด้านความยั่งยืนในสถานที่ ปฏิบัติงาน (On-site ESG Audit) จำนวน
19
ราย
คู่ค้าที่พบประเด็นความเสี่ยง จำนวน
2
ราย